
ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม เรื่องที่บริษัทประกันไม่ได้บอกคุณ!!
อุบัติเหตุทางรถยนต์เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้!! (แม้ไม่ยากให้เกิดก็ตาม) แต่หากเกิดขึ้นจริง และเป็นกรณีที่คุณเป็นฝ่ายถูก นอกจากจะสามารถเรียกร้องค่าซ่อมรถยนต์ของเราได้แล้ว ยังสามารถใช้สิทธิ์เรียก ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม จากประกันภาคสมัครใจทุกประเภทของบริษัทประกันที่เป็นคู่กรณีฝ่ายผิดได้อีกด้วย
“ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ” เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินประโยคนี้กันมาบ้าง แต่จะมีกี่คนที่เข้าใจความหมายของประโยคนี้จริงๆ และสามารถใช้สิทธิ์ได้อย่างถูกต้อง เพราะสิทธิประโยชน์นี้ผู้ที่เสียหายต้องเป็นผู้เรียกร้องด้วยตัวเอง วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบกันว่า ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คืออะไร ? และมีขั้นตอนอะไรบ้างที่ต้องจัดการ
ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม คืออะไร ?
ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม คือเงินค่าชดเชยที่บริษัทประกันภัยรถยนต์ของฝ่ายที่ผิด ต้องชดใช้ให้แก่ผู้เสียหายที่เป็นฝ่ายถูกจากการเสียประโยชน์ที่ไม่มีรถใช้ในระหว่างการซ่อม ซึ่งผู้ที่เป็นฝ่ายถูกต้องเป็นคนเรียกร้องสิทธิ์ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อมกับบริษัทประกันของฝ่ายผิดด้วยตัวเอง และฝ่ายที่ผิดต้องมีการทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจจึงจะเรียกร้องค่าชดเชยในส่วนนี้ได้
ขั้นตอนการขอค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ
- ติดต่อบริษัทประกันภัยของคู่กรณี (ฝ่ายผิด) จากนั้นให้ยืนยันคำเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ในช่วงเวลาที่รถของคุณกำลังซ่อมอยู่
- เมื่อบริษัทของคู่กรณีแจ้งเอกสารที่ต้องการมา ให้คุณนำเอกสารต่างๆ จัดส่งไปยังบริษัทของคู่กรณีเพื่อดำเนินการต่อ หรือ ไปที่ทำการ สาขาของบริษัทประกัน ขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ของบริษัทประกัน
- รอบริษัทคู่กรณีติดต่อกลับมา เนื่องจากต้องเช็กข้อมูลเพื่อพิจารณาว่าต้องชดเชยให้กับคุณเท่าไร ทำการประเมิน เจรจาต่อรอง หรือ หากไปที่ทำการ สาขาของบริษัทประกัน ก็สามารถเจรจา กันได้ทันที
- หลังจากตกลงกันเสร็จเรียบร้อย ก็รอรับค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ภายใน 7 วัน
เอกสารที่จำเป็นในการเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ
- ใบเสนอรายการความเสียหายของรถยนต์
- ใบเคลม (ใบรองรับความเสียหายต่อทรัพย์สิน)
- สำเนาตารางกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์
- สำเนาทะเบียนรถยนต์
- สำเนาใบขับขี่รถยนต์
- สำเนาบัตรประชาชน
- ใบรับรถ หรือหนังสือส่งมอบรถเสร็จ
- รูปถ่ายตอนซ่อม
- รูปถ่ายความเสียหาย
- หนังสือเรียกร้องสินไหมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม
- สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้เอาประกัน
- หนังสือมอบอำนาจ
เอกสารที่ใช้ อาจไม่ต้องใช้ทั้งหมด ทั้งนี้ควรสอบถาม บริษัทประกันฝ่ายผิด เพื่อเป็นไปตามกฏเกณฑ์ของแต่ละบริษัทประกันอีกครั้ง
ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ เรียกได้เท่าไร
การเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถมีอัตราขั้นต่ำของการเรียกค่าชดใช้ ตามประกาศ คปภ. วันที่ 1 มกราคม 2562 เพื่อไม่ให้บริษัทประกันภัยเจรจาจ่ายในจำนวนที่ต่ำเกินไป ดังนี้
- รถยนต์ที่นั่งไม่เกิน 7 คน (รวมผู้ขับขี่) อัตราชดเชยไม่น้อยกว่าวันละ 500 บาท
- รถยนต์รับจ้างสาธารณะที่นั่งไม่เกิน 7 คน (รวมผู้ขับขี่) อัตราชดเชยไม่น้อยกว่าวันละ 700 บาท
- รถยนต์ที่มีที่นั่งเกิน 7 คน (รวมผู้ขับขี่) อัตราชดเชยไม่น้อยกว่าวันละ 1,000 บาท
* รถประเภทอื่นๆ ที่ไม่ใช่รถยนต์ในข้อ 1-3 เช่น “รถจักรยานยนต์” ให้เป็นไปตามข้อเรียกร้องและตกลงกันได้ โดยพิจารณาหลักฐานเป็นกรณีไป
ตัวอย่างการเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม
รถลูกค้าของผม เป็นรถยนต์ จดทะเบียนไม่เกิน 7 ที่นั่ง ทำประกันชั้น 1 บริษัทกรุงเทพประกันภัย ถูกรถคู่กรณีทำประกันภาคสมัครใจของกรุงเทพประกันภัย เหมือนกัน ต้องเข้าอู่ซ่อม 16 วัน ผมจึงติดต่อสอบถามไปทาง ไลน์แอดของบริษัทกรุงเทพฯประกันภัย @bangkokinsurance ถึงเอกสารที่ต้องใช้ ประกอบไปด้วย
- สำเนาบัตรประชาชนผู้เอาประกัน
- สำเนารถคันที่เรียกร้องค่าขาดประโยชน์
- สำเนาหน้าบัญชีธนาคารผู้เอาประกัน
- ใบเคลม (ใบรองรับความเสียหายต่อทรัพย์สิน)
- ใบรับรถ หรือหนังสือส่งมอบรถเสร็จ
- หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประชาชนผู้รับมอบอำนาจ
หลังจากไปถึงสำนักงานใหญ่บริษัทกรุงเทพประกันภัย บริษัทแจ้งว่ากรณีนี้ไม่ควรซ่อมนานถึง 16 วัน และโทรสอบถามเหตุผลความล่าช้ากับอู่ซ่อม อู่ซ่อมให้เหตุผล มีการรออะไหล่ 5 วัน และอู่หยุด วันอาทิตย์ และไม่รวมวันรับรถ บริษัทกรุงเทพประกันภัยจึงให้ ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ เป็นจำนวน 8 วัน วันละ 500 บาท ลูกค้าเข้าใจเหตุผล และยอมรับ บริษัทกรุงเทพประกันภัย ก็นัดโอนเงิน ภายใน 7 วัน (ยื่นเรื่อง 24 ก.พ.66 นัดโอนเงินเข้าบัญชีผู้เอาประกัน 2 มี.ค. 66) ใช้เวลาไม่เกินเรียกร้องประมาณ 30 นาทีครับ
ตัวอย่างการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม พันทิป
https://pantip.com/topic/39701830
https://pantip.com/topic/41389591
https://pantip.com/topic/41680700
กรณีผู้เรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากาการใช้รถระหว่างซ่อม ไม่ได้รับ ความเป็นธรรม สามารถร้องเรียน คปภ. ได้ โดยมีขั้นตอนดังนี้
นอกจากเราสามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อมได้แล้ว เราสามารถเรียกร้องค่าใช้จ่ายส่วนที่เราต้องหารถยนต์คนอื่นมาใช้แทนรถที่ถูกชนจนเข้าอู่ไป จากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิดได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการต่อรองกับบริษัทฯ ประกันรถยนต์ของคู่กรณี จากประสบการณ์ส่วนตัว จะเบิกค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้ กรณีที่มีเอกสารที่ชัดเจนจากผู้ให้เช่ารถ และ รถที่เช่ามีสมรรถนะ ไม่เกินกว่ารถของผู้เอาประกัน หากการต่อรอรองมีปัญหาหรือเกิดความขัดแย้ง ทำให้ไม่สามารถตกลงกันได้ ให้นำเรื่องไปเจรจาต่อที่สำนักงาน คปภ. ได้
ขั้นตอนการแจ้งเรื่องกับ คปภ. เรียกร้องค่าขาดผลประโยชน์เพิ่ม
- ติดต่อสำนักงาน คปภ. 1186 หรือ 0-2515-3999 หรือ ยื่นเรื่องร้องเรียนออนไลน์
- คปภ. จะใช้เวลา 10 – 15 วัน ในการดำเนินการเรียกบริษัทฯ ประกันภัยรถยนต์มาเจรจากับผู้ร้องเรียน
- คปภ. จะช่วยแจ้งเรื่องและแนวทางการจ่ายขั้นต่ำ 500 บาท, 700 บาท และ 1000 บาท แต่การพิจารณาขึ้นอยู่กับทางบริษัทฯ ประกันภัยรถยนต์อยู่ดี แต่ คปภ. จะมาช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยและยกหลักเกณฑ์ต่างๆ รวมถึงวันเข้าซ่อมและวันรับรถเท่านั้น
- ค่าขาดผลประโยชน์จากการใช้รถ ซึ่งจะได้รับเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับการเจรจา เพราะสุดท้าย คปภ. เป็นตัวกลางเท่านั้น ไม่ได้มีอำนาจในการบังคับให้บริษัทฯ ประกันภัยรถยนต์ต้องจ่ายค่าชดเชยอะไรเพิ่มเติม
ทุกคนน่าจะเห็นถึงความสำคัญของการทำประกันภัยรถยนต์กันแล้วนะครับ เพราะถึงคุณจะขับรถจนชำนาญแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุขึ้น และเมื่อเข้าใจแบบนี้แล้วหากรถของคุณเกิดอุบัติเหตุขึ้นแล้วเป็นฝ่ายถูก ก็อย่าลืมเรียกร้องสิทธิ์ของตัวเองกันด้วยนะครับ
หากสนใจ ทำประกันราคาตัวแทน หรือ ขายประกัน สร้างรายได้เสริม หรือ เป็นอาชีพหลัก สามารถติดต่อทีมงาน ทิพย์วิจิตร ทั่วประเทศ ได้เลยครับ
ศรีกรุงโบรคเกอร์ เป็นโบรคเกอร์ประกันครบวงจร ดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี 2533 ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 48 แห่ง มีพันธมิตร มากกว่า 50 บริษัท มีพนักงานประจำที่จะคอยสนับสนุนนายหน้าประกันภัย มากกว่า 600 คน มีบริการเช็คเบี้ย แจ้งงาน 7 วัน 24 ชั่วโมง มีระบบฝึกอบรมมากกว่า 20 หลักสูตร ทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อพัฒนาทักษะในต่านต่างๆ อย่างครองคลุมไม่มีประสบการณ์ หรือทำงานประจำ ก็ทำธุรกินี้ได้ ไม่มีหน้าร้าน ก็ทำธุรกิจนี้ได้ เราสอนทำธุรกิจฟรี
ศรีกรุงโบรคเกอร์เป็นหนึ่งในโบรคเกอร์ ที่ คปภ.คัดเลือก ให้เป็นโบรคเกอร์ดีเด่น 2 ปีซ้อน เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพภายในองค์กร มีฐานะการเงินที่มั่นคง รวมทั้งดำเนินธุกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและมีธรรมาภิบาล
นอกจากนี้ ศรีกรุงโบรคเกอร์ยังมีแผนการตลาดที่สุดยอด ไม่บังคับยอดขาย ตำแหน่งขึ้นแล้วไม่มีลง สามารถรับรายได้เดือนละเป็นแสนบาท/เดือน จากการสร้างและบริหารทีมขาย ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาบริษัทในด้านตางๆ ตลอดจนความเป็นเลิศและความทุ่มเทในการให้บริการลูกค้า ศรีกรุงโบรคเกอร์จึงเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับที่ต้องการจะทำธุรกิจประกันภัย
